ท้องผูกในผู้สูงอายุ อันตรายไหม ดูแลอย่างไรดี
- lalidaskc
- 30 เม.ย.
- ยาว 1 นาที
ภาวะท้องผูกในผู้สูงอายุ เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อย และอาจดูเหมือนไม่ร้ายแรง แต่ความจริงแล้วอาจส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตหากปล่อยไว้นานโดยไม่ดูแล รักษา อย่างถูกวิธี ดังนั้น อาการท้องผูกในผู้สูงอายุคืออะไร เกิดจากอะไร อันตรายไหม และมีวิธีดูแลอย่างไรให้ลำไส้กลับมาทำงานได้ดีอีกครั้ง
ภาวะท้องผูกในผู้สูงอายุ คืออะไร
ภาวะท้องผูก หมายถึง การขับถ่ายที่ผิดปกติ เช่น ถ่ายน้อยกว่าสัปดาห์ละ 3 ครั้ง อุจจาระแข็ง ก้อนเล็ก หรือรู้สึกถ่ายไม่สุด โดยปกติแล้วในผู้สูงอายุระบบการทำงานของร่างกายจะช้าลง รวมถึงระบบทางเดินอาหาร ทำให้การเคลื่อนไหวของลำไส้ลดลง จึงมีโอกาสเกิดท้องผูกได้ง่ายขึ้นกว่าคนทั่วไป นั่นเอง
สาเหตุของภาวะท้องผูกในผู้สูงอายุ
ภาวะท้องผูกในผู้สูงวัยอาจเกิดจากหลายปัจจัยร่วมกัน เช่น
การรับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย เช่น ข้าวขาว เนื้อสัตว์ ไข่
การดื่มน้ำน้อย ทำให้ลำไส้ดูดซึมน้ำจากอุจจาระมากขึ้นจนแข็ง
การเคลื่อนไหวร่างกายลดลง นั่งหรือนอนนาน ๆ ทำให้ลำไส้ไม่กระตุ้นตัวเอง
ผลข้างเคียงจากยา เช่น ยาแก้ปวด ยาลดความดันบางชนิด
ภาวะเครียด วิตกกังวล หรือโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน พาร์กินสัน
ท้องผูกในผู้สูงอายุ อันตรายไหม
หลายคนมองว่าท้องผูกเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ในผู้สูงอายุ หากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ เช่น
ริดสีดวงทวาร จากการเบ่งบ่อย ๆ
ทวารหนักฉีกขาด ทำให้เจ็บแสบเวลาขับถ่าย
ลำไส้อุดตัน หากอุจจาระแข็งและสะสมมาก
สูญเสียความอยากอาหาร ท้องอืด แน่นท้อง ส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม
สัญญาณเตือนว่าผู้สูงอายุอาจมีภาวะท้องผูกเรื้อรัง
อาการท้องผูกในผู้สูงอายุ อาจเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยจนหลายคนมองว่าเป็นอาการธรรมดา แต่อย่างไรก็ตามควรเฝ้าระวังหากมีอาการดังต่อไปนี้
ถ่ายน้อยกว่า 3 ครั้งต่อสัปดาห์
ถ่ายยาก ต้องเบ่งนาน
อุจจาระแข็ง หรือมีเลือดปน
ปวดท้อง แน่นท้องเรื้อรัง
มีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วย
หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและแนวทางการรักษา
วิธีดูแลและป้องกันภาวะท้องผูกในผู้สูงอายุ
การดูแลที่ดีสามารถช่วยป้องกันและลดอาการท้องผูกได้ ดังนี้
เพิ่มกากใยในอาหาร เช่น ผัก ผลไม้ ถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี
ดื่มน้ำให้เพียงพอ วันละ 6–8 แก้ว
เคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น เดิน ยืดเหยียด
ขับถ่ายให้เป็นเวลา ฝึกนั่งห้องน้ำหลังตื่นนอน
หลีกเลี่ยงการกลั้นอุจจาระ
นวดหน้าท้องเบา ๆ เพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหวของลำไส้

การรักษาภาวะท้องผูกในผู้สูงอายุ ทำอย่างไร
หากปรับพฤติกรรมแล้วยังมีอาการเรื้อรัง ควรพิจารณาการรักษาเพิ่มเติม เช่น:
ใช้ยาระบายภายใต้คำแนะนำของแพทย์ ไม่ควรซื้อยากินเองเป็นประจำ
สวนอุจจาระ ในกรณีอุดตันรุนแรง
ตรวจหาสาเหตุจากโรคประจำตัว เช่น มะเร็งลำไส้ พาร์กินสัน
โดยต้องมีการปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องก่อน
สรุป
ภาวะท้องผูกในผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องเล็ก หากละเลยอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงได้ การดูแลอย่างถูกวิธีด้วยการปรับพฤติกรรมการกิน ดื่มน้ำให้เพียงพอ เคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอ และใส่ใจการขับถ่ายในทุกวัน สามารถช่วยให้ลำไส้กลับมาทำงานดี และลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนได้ในระยะยาว
"ศูนย์เซ็นจูรี่แคร์ พร้อมดูแลด้วยจุดมุ่งหมายให้ผู้เข้ารับบริการกลับไปใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงปกติให้ได้มากที่สุด"

Century Care Center ยินดีให้คำปรึกษา
โทร : 095-713-2222
Line : @ccnh
Facebook : www.facebook.com/CenturyCareCenter
Instagram : www.instagram.com/centurycare.center
Tiktok : www.tiktok.com/@centurycarecenter
Comments