ควบคุมฟอสฟอรัสอย่างไรในโรคไตเรื้อรัง
- lalidaskc
- 31 พ.ค.
- ยาว 1 นาที
โรคไตเรื้อรัง เป็นปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในคนไทย และหนึ่งในสิ่งที่ผู้ป่วยโรคไตจำเป็นต้องใส่ใจเป็นพิเศษ คือ การควบคุมระดับฟอสฟอรัสในร่างกาย เพราะหากปล่อยให้มีฟอสฟอรัสสูงเกินไปจะเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่อันตราย โดยเฉพาะกับโรคกระดูกและโรคหลอดเลือดหัวใจได้ โดยฟอสฟอรัสคืออะไร มีผลต่อร่างกายอย่างไร และควรควบคุมอย่างไรให้ปลอดภัยในผู้ป่วยไตเรื้อรัง
ฟอสฟอรัสคืออะไร?
ฟอสฟอรัส (Phosphorus) เป็นแร่ธาตุสำคัญที่มีบทบาทในการสร้างกระดูกและฟัน ช่วยในการทำงานของเซลล์ การสร้างพลังงาน และควบคุมสมดุลกรด-ด่างในร่างกาย โดยฟอสฟอรัสจะอยู่ในรูปของ ฟอสเฟต (phosphate) ที่หมุนเวียนในกระแสเลือด
ร่างกายได้รับฟอสฟอรัสจากอาหาร และไตจะทำหน้าที่ขับออกเมื่อมีปริมาณเกิน แต่ในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง ไตจะขับฟอสฟอรัสได้น้อยลง ทำให้เกิดการสะสมในเลือด
อันตรายของฟอสฟอรัสสูงในผู้ป่วยโรคไต
ระดับฟอสฟอรัสที่สูงในผู้ป่วยโรคไตอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น
โรคกระดูก: ฟอสฟอรัสสูงจะดึงแคลเซียมจากกระดูก ทำให้กระดูกบางและเปราะง่าย
ภาวะหลอดเลือดแข็งตัว: การจับตัวของฟอสฟอรัสกับแคลเซียมอาจเกิดเป็นตะกรันในหลอดเลือด เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
คันตามผิวหนังเรื้อรัง: ผู้ป่วยบางรายจะรู้สึกคันโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งเกี่ยวข้องกับฟอสฟอรัสในเลือดที่สูง
ดังนั้น การควบคุมระดับฟอสฟอรัสให้อยู่ในเกณฑ์ปกติจึงมีความสำคัญมาก

วิธีควบคุมฟอสฟอรัสในโรคไตเรื้อรัง
1. เลือกกินอาหารที่มีฟอสฟอรัสต่ำ
ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง เช่น
ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมวัว โยเกิร์ต ชีส
เครื่องในสัตว์ เช่น ตับ ไต สมอง
ปลาและอาหารทะเล บางชนิด เช่น ปลาซาร์ดีน กุ้งแห้ง
ถั่วและธัญพืชบางชนิด เช่น ถั่วเหลือง อัลมอนด์ เมล็ดฟักทอง
อาหารแปรรูปและอาหารสำเร็จรูป ที่มักมีฟอสเฟตเป็นสารกันเสียหรือวัตถุเจือปนอาหาร
อาหารแนะนำ สำหรับผู้ป่วยโรคไตที่ต้องการลดฟอสฟอรัส เช่น
ข้าวขาวแทนข้าวกล้อง
ผักสดที่ไม่จัดเกินไป เช่น ผักกาดขาว แตงกวา ฟักเขียว
ผลไม้สด เช่น แอปเปิ้ล แตงโม มะละกอ
2. อ่านฉลากอาหารก่อนซื้อ
อาหารแปรรูปมักเติมสารฟอสเฟตเพื่อยืดอายุการเก็บ เช่น sodium phosphate, calcium phosphate, phosphoric acid ดังนั้น ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีสารเหล่านี้ในฉลาก
3. ปรุงอาหารเองและหลีกเลี่ยงอาหารจานด่วน
การทำอาหารรับประทานเองช่วยให้ควบคุมส่วนผสมได้ดีกว่า หลีกเลี่ยงการปรุงรสด้วยซอสต่าง ๆ เช่น ซอสถั่วเหลือง ซอสมะเขือเทศ เพราะมักมีฟอสฟอรัสสูง
4. ทานยาจับฟอสเฟตตามแพทย์สั่ง
ในบางกรณี แพทย์อาจสั่งให้ผู้ป่วยรับประทาน ยาจับฟอสเฟต (Phosphate Binders) เช่น calcium acetate หรือ sevelamer โดยให้รับประทานพร้อมอาหาร เพื่อช่วยจับฟอสฟอรัสและขับออกทางระบบขับถ่าย ไม่ให้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง
ควรตรวจเลือดเป็นประจำ เพื่อติดตามระดับฟอสฟอรัส แคลเซียม และฮอร์โมนพาราไทรอยด์ (PTH)
ปรึกษานักโภชนาการไต เพื่อวางแผนโภชนาการเฉพาะบุคคล
อย่าใช้ยาหรืออาหารเสริมเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ เพราะบางชนิดอาจมีฟอสฟอรัสแฝงอยู่
สรุป
การควบคุมระดับฟอสฟอรัสเป็นหัวใจสำคัญในการดูแลผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังอย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกอาหารอย่างรอบคอบ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีฟอสฟอรัสสูง และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์และนักโภชนาการ จะช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ และยืดอายุไตให้ทำงานได้นานที่สุด
หากคุณหรือคนในครอบครัวเป็นโรคไตเรื้อรัง อย่าลืมใส่ใจเรื่อง ฟอสฟอรัส เพราะสิ่งเล็ก ๆ นี้อาจมีผลต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวได้
"ศูนย์เซ็นจูรี่แคร์ พร้อมดูแลด้วยจุดมุ่งหมายให้ผู้เข้ารับบริการกลับไปใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงปกติให้ได้มากที่สุด"

Century Care Center ยินดีให้คำปรึกษา
โทร : 095-713-2222
Line : @ccnh
Facebook : www.facebook.com/CenturyCareCenter
Instagram : www.instagram.com/centurycare.center
Tiktok : www.tiktok.com/@centurycarecenter
Comments