ทำไมการฝึกเดินด้วยหุ่นยนต์ Lokomat ถึงได้ผลดีกว่าการฝึกแบบทั่วไป

lalidaskc
2 วันที่ผ่านมา
ยาว 1 นาที

ปัญหาเกี่ยวกับการเดินซึ่งอาจเกิดขึ้นจากโรคหรืออุบัติเหตุ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke), อัมพฤกษ์ อัมพาต, อุบัติเหตุทางสมองและไขสันหลัง หรือโรคทางระบบประสาทต่าง ๆ ทำให้การฝึกเดินเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพการเคลื่อนไหวจึงเป็นขั้นตอนสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกของการฟื้นตัว

และหนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในวงการกายภาพบำบัด คือ หุ่นยนต์ฝึกเดิน หรือเรียกกันว่าเครื่อง Lokomat ซึ่งเป็นระบบหุ่นยนต์ช่วยพยุงและเคลื่อนไหวขาร่วมกับลู่วิ่งและระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อให้การฝึกเดินมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเหตุผลอะไรที่ทำให้การฝึกเดินด้วยเทคโนโลยีนี้ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการฝึกเดินแบบทั่วไป บทความนี้มีคำตอบ

Lokomat คืออะไร?

Lokomat คือ หุ่นยนต์ฝึกเดินแบบอัตโนมัติ (Robot-Assisted Gait Training) ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยฟื้นฟูการเดินของผู้ที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว โดยมีระบบพยุงน้ำหนักตัว (Body Weight Support) และแขนกลที่ติดกับขาทั้งสองข้างของผู้ป่วย เพื่อควบคุมและนำทางการเคลื่อนไหวของขาให้เป็นจังหวะเหมือนการเดินจริง

ผู้ใช้งานจะถูกพยุงไว้ในลู่วิ่ง พร้อมให้ขาทั้งสองข้างเคลื่อนไหวตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ ซึ่งช่วยให้ผู้ป่วยได้ฝึกเดินในรูปแบบที่ปลอดภัย มีความแม่นยำ และควบคุมได้มากกว่าการฝึกด้วยตนเอง

5 เหตุผลที่ Lokomat ได้ผลดีกว่าการฝึกเดินแบบทั่วไป

1. ความแม่นยำสูง

Lokomat สามารถควบคุมจังหวะ ความเร็ว และระยะของการก้าวเดินได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้การฝึกมีรูปแบบที่ถูกต้องตั้งแต่ต้น ลดการเดินแบบผิดท่าทาง ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหากล้ามเนื้อหรือลักษณะการเดินที่ผิดปกติในระยะยาว

2. ฝึกได้ต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพ

ในการฝึกเดินทั่วไป นักกายภาพบำบัดอาจต้องใช้แรงมากในการช่วยพยุงผู้ป่วย และผู้ป่วยเองอาจเหนื่อยง่าย ทำให้ไม่สามารถฝึกต่อเนื่องได้นาน ในขณะที่ Lokomat ช่วยลดแรงที่ต้องออกทั้งจากผู้ป่วยและนักกายภาพบำบัด ทำให้สามารถฝึกได้นานขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

3. กระตุ้นสมองและระบบประสาท

Lokomat ช่วยกระตุ้นสมองและระบบประสาทผ่านการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ อย่างมีรูปแบบ ซึ่งส่งผลดีต่อการฟื้นฟูระบบประสาท (Neuroplasticity) โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมองหรืออุบัติเหตุทางสมอง

4. ปลอดภัยและลดความเสี่ยงล้ม

การฝึกเดินกับ Lokomat มีระบบพยุงตัวและล็อกอุปกรณ์อย่างแน่นหนา ช่วยลดความเสี่ยงในการล้มระหว่างฝึก ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกมั่นใจมากขึ้นขณะฝึกเดิน

5. ปรับระดับความยากง่ายได้ตามสภาพผู้ป่วย

Lokomat สามารถตั้งโปรแกรมให้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เช่น ระดับการพยุงตัว ความเร็วของการเดิน หรือระดับการออกแรงที่ขา ช่วยให้ฝึกได้ตรงกับความสามารถของแต่ละบุคคล และสามารถปรับเปลี่ยนได้เมื่อผู้ป่วยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น

ขั้นตอนการฝึกเดินด้วย Lokomat เป็นอย่างไร?

การฝึกเดินด้วย Lokomat มักเริ่มต้นจากการประเมินสภาพร่างกายของผู้ป่วยโดยนักกายภาพบำบัด เพื่อปรับระดับโปรแกรมให้เหมาะสมกับความสามารถของแต่ละบุคคล โดยขั้นตอนคร่าวๆ มีดังนี้

1.ประเมินร่างกาย : นักกายภาพจะประเมินสัญญาณชีพของผู้ป่วย, ความยาวของขา และประเมินการเคลื่อนไหวของขา สมดุล รวมทั้งความสามารถในการทรงตัว เพื่อกำหนดจุดเริ่มต้นของการฝึก

2.ติดตั้งอุปกรณ์ : ผู้ป่วยจะสวมฮาร์เนส (สายรัดพยุงตัว) และเชื่อมต่อแขนกลเข้ากับขาทั้งสองข้าง เพื่อให้หุ่นยนต์ควบคุมจังหวะการเดิน

3.เริ่มฝึกบนลู่วิ่ง : ระบบจะค่อย ๆ เคลื่อนไหวขาตามโปรแกรม และสามารถปรับน้ำหนักที่ผู้ป่วยต้องรับหรือระยะก้าวได้ตามต้องการ

4.ติดตามผลและพัฒนา : มีการบันทึกข้อมูลการฝึกทุกครั้ง เช่น จำนวนรอบการเดิน ระยะทางในการเดิน และระยะเวลาที่ใช้ในการเดิน เพื่อใช้ในการประเมินผลและปรับแผนฝึกในครั้งถัดไป

ผู้ป่วยกำลังฝึกเดินด้วยหุ่นยนต์ Lokomat บนลู่วิ่งภายใต้การดูแลของนักกายภาพบำบัด

Lokomat กับการฟื้นฟูระยะยาว

หนึ่งในจุดเด่นของ Lokomat คือ การใช้ข้อมูลที่ได้จากระบบช่วยติดตามพัฒนาการของผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ เช่น ระยะเวลาที่เดินได้มากขึ้น การลดระดับการช่วยพยุงลงทีละน้อย หรือการพัฒนาการออกแรงในแต่ละช่วงจังหวะการเดินที่ดีขึ้น ในกรณีของผู้ป่วยที่มีภาวะเรื้อรัง การฝึกที่สม่ำเสมอกับ Lokomat ยังช่วยเสริมสร้างกำลังใจ และสร้างกิจวัตรฟื้นฟูที่ชัดเจน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของการฟื้นตัวในระยะยาว

สรุป

การฝึกเดินด้วยหุ่นยนต์ Lokomat ถือเป็นทางเลือกที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงกว่าการฝึกแบบดั้งเดิมในหลายด้าน ทั้งความแม่นยำ ปลอดภัย ความสามารถในการปรับตามระดับผู้ป่วย และการเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ทำให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างรวดเร็วและยั่งยืน หากคุณหรือคนในครอบครัวกำลังฟื้นตัวจากโรคหลอดเลือดสมอง หรือปัญหาการเคลื่อนไหวอื่น ๆ การเลือกใช้ Lokomat ควบคู่กับนักกายภาพบำบัดที่เชี่ยวชาญ อาจเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูที่คุณกำลังมองหา

"ศูนย์เซ็นจูรี่แคร์ พร้อมดูแลด้วยจุดมุ่งหมายให้ผู้เข้ารับบริการกลับไปใช้ชีวิตให้ใกล้เคียงปกติให้ได้มากที่สุด"